รู้ก่อนใช้! ค่าใช้จ่ายรถกอล์ฟเชิงพาณิชย์มีอะไรบ้าง?
รถกอล์ฟไฟฟ้า เป็นยานพาหนะที่ได้รับความนิยมสำหรับการใช้งานในธุรกิจหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นสนามกอล์ฟ รีสอร์ต โรงแรม โรงงาน หรือแม้กระทั่งฟาร์มเกษตร แต่การจะตัดสินใจซื้อรถกอล์ฟมาใช้งาน เจ้าของธุรกิจควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายรถกอล์ฟอย่างละเอียด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือและบริหารจัดการการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เช็กลิสต์ค่าใช้จ่ายรถกอล์ฟไฟฟ้ามีอะไรบ้าง?
เตรียมพร้อมก่อนซื้อรถกอล์ฟไฟฟ้า ด้วยการสำรวจค่าใช้จ่ายพื้นฐานที่ต้องรับมือ ตั้งแต่ขั้นตอนการเป็นเจ้าของ ไปจนถึงการบำรุงรักษา ส่วนรายการค่าใช้จ่ายรถกอล์ฟจะมีอะไรบ้าง เราได้รวบรวมมาทั้งหมด 4 รายการ ดังนี้
1. ค่าใช้จ่ายในการซื้อรถกอล์ฟ
เริ่มต้นที่ค่าใช้จ่ายรายการแรก อย่างการ “ซื้อรถกอล์ฟ” ที่มีให้เลือกทั้งแบบมือหนึ่งและมือสอง ซึ่งจะมีราคาลดหลั่นต่างกันไป นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับยี่ห้อ รุ่น และจำนวนที่นั่งที่เลือก โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่หลักแสนไปจนถึงหลักล้าน เบื้องต้นสามารถสอบถามผู้จัดจำหน่าย หรือลดงบให้ประหยัดขึ้น ด้วยการเช่าสำหรับใช้งานก็ได้เช่นเดียวกัน
2. ค่าใช้จ่ายในการประกันภัย
แม้ว่ารถกอล์ฟจะไม่สามารถนำไปขับใช้บนท้องถนนสาธารณะได้ ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 7 ห้ามรถที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน, แผ่นป้ายเครื่องหมายเลขทะเบียน, ป้ายประจำรถ รวมถึงป้ายทะเบียนไม่ครบถ้วน, ติดป้ายผิดตำแหน่ง, ดัดแปลงป้ายทะเบียน มาขับขี่บนทางเดินรถ แต่ก็ยังถูกนับว่าเป็นยานพาหนะชนิดหนึ่ง ซึ่งสามารถนำไปใช้ขับขี่ในสถานที่เฉพาะอย่างสนามกอล์ฟ หรือในโรงแรม รีสอร์ต หมู่บ้านจัดสรร โครงการคอนโดมิเนียม ไซต์ก่อสร้าง โรงพยาบาล ตลอดจนคลังสินค้า
โดยอ้างอิงจากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) รถกอล์ฟจะเข้าข่ายเป็นรถที่เดินด้วยกำลังเครื่องยนต์หรือกำลังไฟฟ้า ทำให้ “ต้อง” ทำประกันภัยภาคบังคับตาม พรบ. เพื่อดูแลผู้ประสบภัยในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ และเพื่อเป็นหลักประกันค่ารักษาให้แก่สถานพยาบาลด้วย โดยค่าใช้จ่ายรถกอล์ฟ จะอ้างอิงตามเกณฑ์รถพลังงานไฟฟ้า
3. ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา
มาต่อกันที่รายการค่าใช้จ่ายรถกอล์ฟในส่วนของการบำรุงรักษา ซึ่งนับได้ว่าเป็นส่วนที่สำคัญอย่างมากต่อความคุ้มค่าด้านอายุการใช้งาน และประสิทธิภาพของรถกอล์ฟ โดยรายการค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ จะประกอบไปด้วย
- ขั้นตอนการตรวจสภาพและซ่อมแซมรถกอล์ฟ: เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในระหว่างการตรวจสภาพความสมบูรณ์ของอะไหล่ต่าง ๆ ตลอดจนมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้ในการขับเคลื่อน รวมไปถึงหลังการตรวจสภาพ เมื่อเจออาการขัดข้องก็อาจจะต้องมีการซ่อมแซม ซึ่งก็เป็นอีกค่าใช้จ่ายที่จะต้องรับ เพื่อให้สามารถกลับมาใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- ขั้นตอนการเปลี่ยนอะไหล่: เป็นค่าใช้จ่ายในกรณีที่เกิดอะไหล่ชำรุด เสียหาย หรือหมดอายุการใช้งาน และเพื่อให้สามารถใช้รถกอล์ฟต่อได้แบบไม่มีสะดุด คุณจำเป็นต้องสำรองงบประมาณเอาไว้ เพื่อใช้ในการซื้ออะไหล่สำรอง สำหรับเปลี่ยนให้ใช้งานได้อย่างเต็มที่ เช่น อะไหล่ยางรถกอล์ฟ แบตเตอรี่ มอเตอร์ไฟฟ้า เซนเซอร์ คอนโทรลเลอร์ และอื่น ๆ อีกมากมาย
4. ค่าใช้จ่ายในการชาร์จไฟ
เพราะรถกอล์ฟที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า จำเป็นจะต้องมีการชาร์จไฟเพื่อให้มอเตอร์สามารถทำงานได้อย่างเต็มพิกัด ด้วยการกักเก็บพลังงานไฟฟ้าก่อนจะเปลี่ยนเป็นพลังงานขับเคลื่อนรถกอล์ฟ ซึ่งให้ผลดีเรื่องการลดมลพิษทางอากาศ รวมไปถึงทางกลิ่นและเสียง แต่ก็ต้องแลกมาด้วยค่าไฟและค่าอุปกรณ์สำหรับการใช้ชาร์จรถกอล์ฟ โดยค่าใช้จ่ายจะเฉลี่ยตามหน่วยไฟฟ้าที่ใช้ในช่วงเวลานั้น
ค่าใช้จ่ายรถกอล์ฟ ส่วนไหนสำคัญมากที่สุด?
ในฐานะผู้ประกอบการ ค่าใช้จ่ายที่สำคัญที่สุดก็คือ ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา เพราะรถกอล์ฟเป็นยานพาหนะที่ต้องใช้งานเป็นประจำ ทำให้ต้องมีการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานและคงประสิทธิภาพในระยะยาว นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ และลดค่าใช้จ่ายด้านการซ่อมแซม รวมถึงการเปลี่ยนอะไหล่สำรองก่อนเวลาที่จำเป็นได้อีกด้วย
เทคนิคการบำรุงรักษารถกอล์ฟพาณิชย์ ประหยัดค่าใช้จ่าย
- หมั่นตรวจเช็กสภาพการหล่อลื่น
สำหรับธุรกิจที่ใช้รถกอล์ฟมักจะมีเทคนิคการบำรุงรักษาที่แตกต่างกัน ตามลักษณะของพลังงานที่ใช้ขับเคลื่อน เช่น รถกอล์ฟเครื่องยนต์สันดาปควรตรวจเช็กระดับน้ำมันเครื่องและหมั่นกรองน้ำมันอยู่เสมอ เพื่อยืดอายุการใช้งานเครื่องยนต์ ในขณะที่รถกอล์ฟไฟฟ้าจะต้องคอยตรวจเช็กระดับน้ำกลั่นในแบตเตอรี่ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำกลั่นแห้ง ซึ่งจะกระทบต่อการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าได้
- หมั่นตรวจเช็กระบบเบรก
หนึ่งในค่าใช้จ่ายรถกอล์ฟด้านการบำรุงรักษาคือ การตรวจเช็กระบบเบรก ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญในการควบคุมรถกอล์ฟให้สามารถหยุดได้อย่างปลอดภัย โดยจะต้องตรวจสอบสภาพของผ้าเบรก แป้นเบรก และระดับน้ำมันเบรกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันปัญหาระบบเบรกทำงานผิดปกติที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
- หมั่นตรวจสภาพยางรถกอล์ฟ
นอกจากระบบเบรกและการหล่อลื่นที่ควรตรวจเช็กอย่างสม่ำเสมอแล้ว “ยางรถกอล์ฟ” ยังเป็นอีกส่วนสำคัญที่ต้องดูแลให้เหมาะสม ทั้งขนาดวงล้อ แรงดันลมยาง และสภาพของยาง เพราะการใช้ยางรถที่มีสภาพดีจะช่วยให้การขับขี่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และประหยัดน้ำมัน รวมถึงยืดอายุการใช้งานของยางให้นานขึ้น
- หมั่นตรวจเช็กระบบไฟฟ้าของรถกอล์ฟ
สุดท้าย อย่าลืมตรวจเช็กระบบไฟฟ้าของรถกอล์ฟอย่างสม่ำเสมอด้วย เนื่องจากระบบไฟฟ้าที่ทำงานผิดปกติ อาจส่งผลให้เกิดปัญหาต่อระบบการขับเคลื่อน รวมไปถึงอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ บนตัวรถได้
โดยสรุปแล้ว การหมั่นบำรุงรักษารถกอล์ฟอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอตามเทคนิคเหล่านี้ จะช่วยให้รถกอล์ฟที่นำไปใช้เชิงพาณิชย์ สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพนานขึ้น และลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอะไหล่ที่จำเป็น ซึ่งจะเป็นการประหยัดงบประมาณในระยะยาวให้แก่ธุรกิจของคุณได้เป็นอย่างดี
เตรียมค่าใช้จ่ายรถกอล์ฟกันให้พร้อม แล้วมาเลือกรถกอล์ฟไฟฟ้า ราคาถูกที่ได้ประสิทธิภาพการใช้งานได้เลยที่ UGO ศูนย์รถกอล์ฟ ผู้จัดจำหน่ายรถกอล์ฟมือหนึ่งและมือสอง พร้อมจำหน่ายอะไหล่ครบได้มาตรฐานแบบครบวงจร ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนาน 21 ปี พร้อมให้บริการหลังการขายโดยช่างผู้เชี่ยวชาญด้านรถไฟฟ้าตลอด 24 ชั่วโมง ดูแลให้จนหมดอายุการใช้งาน
เปิดบริการวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 08.00-17.00 น. และวันเสาร์ 09.00-17.00 น. หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-385-1100 หรือ ADD LINE : @UGOCAR
ข้อมูลอ้างอิง
- ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมีความผิด!!!. สืบค้นเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2567 จาก https://krasang.buriram.police.go.th/archives/2233#:~:text=มาตรา
- รู้หรือไม่ พ.ร.บ.รถยนต์ กับ ภาษีรถยนต์ ต่างกันอย่างไร ทำไมต้องต่อทุกปี. สืบค้นเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2567 จาก https://www.thaipbs.or.th/news/content/337472
- คำอธิบายสรุปสาระสำคัญ พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม. สืบค้นเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2567 จาก https://oiceservice.oic.or.th/document/Law/file/12482/12482_c57822d1c139f388eaa13761b6dd6c07_1.pdf
