การเลือกซื้อรถกอล์ฟ ต้องดูอะไรบ้าง
24/11/2023

ไกด์การเลือกซื้อรถกอล์ฟที่ได้มาตรฐาน ต้องดูอะไรบ้าง?

รถกอล์ฟ” ยานพาหนะขนาดเล็กที่งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นที่สนามกอล์ฟ โครงการบ้าน รีสอร์ต สถานพยาบาล มหาวิทยาลัย อสังหาริมทรัพย์  รวมไปถึงการใช้ในวัตถุประสงค์อื่น ๆ ซึ่งการที่จะเลือกซื้อให้สามารถนำไปใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและปลอดภัยนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่ต้องรู้ทริกที่ใช้ประกอบการตัดสินใจด้านการเลือกซื้อรถกอล์ฟ ซึ่งควรจะต้องดูอะไรบ้าง ด้านล่างนี้มีคำตอบ

 

รถกอล์ฟ ยานพาหนะอเนกประสงค์

รถกอล์ฟ ยานพาหนะขนาดเล็กที่หลายคนอาจไม่รู้ว่า นอกจากจะใช้วิ่งในสนามหญ้า สนามไดรฟ์กอล์ฟแล้ว ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่อื่น ๆ ได้อีกมากมาย ด้วยหลักการออกแบบที่ถูกคิดขึ้นมา เพื่อใช้อำนวยความสะดวกโดยเฉพาะ จึงทำให้ในปัจจุบัน ผู้ประกอบการทั้งโรงงานอุตสาหกรรม โกดังสินค้า หมู่บ้านจัดสรร รีสอร์ต รวมไปถึงโครงการ ๆ ที่มีขนาดกว้างขวาง ก็เลือกที่จะหันมาพิจารณาการเลือกซื้อรถกอล์ฟไปใช้งาน

โดยขนาดทั่วไปที่พบเห็นการใช้งานได้บ่อยครั้ง นั่นก็คือรถกอล์ฟที่มี 2-4 ที่นั่ง ทั้งแบบการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งในปัจจุบันจะนิยมเป็นรถกอล์ฟที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า ด้วยความเร็วในการขับเคลื่อนสูงสุดประมาณ 25-40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีระยะทางต่อการชาร์จหนึ่งครั้งวิ่งได้ประมาณ 70-80 กิโลเมตร ซึ่งก็เรียกได้ว่าตอบโจทย์ความสะดวกสบาย และลดมลพิษในภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจได้อย่างแท้จริง

 

แนวทางการเลือกซื้อรถกอล์ฟให้ได้มาตรฐาน และมีคุณภาพดี

หลังจากที่ได้รู้กันไปแล้วว่ารถกอล์ฟเป็นยานพาหนะอเนกประสงค์ ที่สามารถนำไปใช้ได้กับหลากหลายธุรกิจแล้ว หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่มีความสนใจจะเลือกซื้อรถกอล์ฟ แต่ไม่รู้ว่าจะต้องดูอะไรบ้าง ด้านล่างนี้มีคำตอบ

1. วัตถุประสงค์การนำไปใช้งาน

ก่อนการเลือกซื้อรถกอล์ฟ อันดับแรกต้องพิจารณาที่วัตถุประสงค์ของการใช้งานเป็นหลักก่อนเลยว่า ต้องการนำไปใช้สำหรับอะไร เช่น ใช้กับสนามกอล์ฟ ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม หรือนำไปใช้ในหมู่บ้านจัดสรร ซึ่งแต่ละสถานที่ก็ต้องการประเภทการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป โดยแบ่งได้ง่าย ๆ 2 ประเภท ได้แก่

  • ใช้รับส่งผู้โดยสาร: เหมาะกับรถกอล์ฟที่มีขนาดเล็กถึงปานกลาง พิจารณาจากขนาดสถานที่ จำนวนผู้โดยสารที่รับส่งต่อรอบ เพื่อเลือกจำนวนที่นั่งของรถให้เหมาะสม
  • ใช้ขนส่งสิ่งของ: ควรเลือกซื้อที่มีขนาดใหญ่ แข็งแรง และทนทาน เพื่อให้สามารถบรรทุกน้ำหนักได้มากกว่านั่นเอง

 

2. เลือกขนาดให้เหมาะสม

สิ่งที่ควรรู้ในการเลือกซื้อรถกอล์ฟ นั่นก็คือขนาดที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งมีผลต่อการนำไปใช้งาน จะตอบโจทย์หรือไม่สามารถวัดได้จากตรงนี้ โดยขนาดของรถกอล์ฟสามารถจำแนกได้ 3 แบบ ได้แก่

  • ขนาดเล็ก (2-4 ที่นั่ง) 

เป็นรุ่นที่นิยม มีความคล่องตัว ขนาดกะทัดรัด ใช้งานง่าย โดยที่นั่งในบางรุ่นสามารถพับเบาะด้านหลัง เป็นที่วางสัมภาระได้ เหมาะกับการนำไปใช้งานส่วนตัว ธุรกิจ โครงการหมู่บ้าน รีสอร์ต อสังหาริมทรัพย์

  • ขนาดกลาง (6-11 ที่นั่ง) 

เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องมีการโดยสารจำนวนมาก สามารถนำไปใช้งานในภาคธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ โรงงานอุตสาหกรรม โรงแรม รีสอร์ต สนามบิน โรงพยาบาล รวมไปถึงหน่วยงานต่าง ๆ อีกมากมาย

  • ขนาดใหญ่ (11-23 ที่นั่ง) 

เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องมีการโดยสารจำนวนมาก ทั้งการรับส่งผู้โดยสารขององค์กรหรือสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่สำคัญต้องมีพื้นที่ของถนนที่สามารถรองรับรถขนาดยาวและวงเลี้ยวกว้างกว่ารถขนาดเล็กได้

 

3. สภาพพื้นที่การใช้งานจริง

แนวทางการเลือกซื้อรถกอล์ฟให้ได้มาตรฐาน

 

สภาพพื้นที่การใช้งานของรถกอล์ฟ มีผลเป็นอย่างมากในการตัดสินใจเลือกซื้อให้ได้คุณภาพ เพราะถ้าหากตัดสินใจพลาดในการเลือกซื้อรถกอล์ฟโดยขาดการพิจารณาสภาพพื้นที่จริง ก็อาจจะส่งผลให้มอเตอร์ของรถเสื่อมสภาพลงได้อย่างรวดเร็ว นำไปสู่การชำรุดก่อนอายุการใช้งานจริง โดยการเลือกที่อ้างอิงจากสภาพพื้นที่ สามารถดูได้ง่าย ๆ ดังนี้

  • สภาพพื้นที่ที่มีความลาดชัน

ควรเลือกจากมอเตอร์ไฟฟ้า เน้นที่มีกำลังไฟสูงและแบตเตอรี่ที่ค่าแอมป์สูง สามารถเลือกได้ทั้งมอเตอร์กระแสตรง (DC) และมอเตอร์กระแสสลับ (AC) ที่มีราคาสูงกว่าเล็กน้อย เนื่องจากให้กำลังขับ แรงบิดที่สูงกว่า และน้ำหนักน้อยกว่า ที่สำคัญ หากเป็นพื้นที่การใช้งานที่มีความลาดชัดสูง ก็ควรเลือกเป็นรถกอล์ฟระบบเบรกสี่ล้อ ซึ่งตอบโจทย์การขับเคลื่อนได้อย่างเหมาะสม ทั้งนี้การเลือกซื้อรถกอล์ฟควรพิจารณาประกอบกันระหว่างงบประมาณที่มี และความเหมาะสมของประเภทรถกอล์ฟที่จะนำไปใช้งาน เพื่อให้ได้โซลูชันที่ดีที่สุดนั่นเอง

  • สภาพพื้นผิวถนนขรุขระ 

ควรเลือกใช้รถกอล์ฟที่ช่วงล่างมีความนุ่มนวล เลือกโช้คอัพสปริงแยกอิสระ ซึ่งเป็นช่วงล่างระบบเดียวกับรถยนต์ ให้สามารถรองรับแรงกระแทก พร้อมลดแรงสั่นสะเทือนของรถได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกันกับยางล้อรถ ให้เลือกเป็นประเภทแบบ OFF-ROAD ที่เหมาะกับสภาพพื้นผิวถนนขรุขระ เพราะดอกยางได้ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานในพื้นที่แบบนี้โดยเฉพาะ เพื่อตอบโจทย์การขับขี่ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดนั่นเอง

  • พื้นที่กว้างมีระยะทางไกล 

สำหรับการเลือกซื้อรถกอล์ฟ เพื่อนำไปใช้ในสภาพพื้นที่ที่กว้างขวาง มีระยะทางไกล และใช้งานหนัก ควรเลือกแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน และเป็นแบตเตอรี่สำหรับรถกอล์ฟโดยเฉพาะ โดยเน้นรุ่นที่แบตค่าแอมป์ (Amp)สูง เพื่อให้รถกอล์ฟสามารถวิ่งได้นานขึ้น (ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง) นั่นเอง

 

4. ตรวจสอบการการันตีคุณภาพ

เพื่อลดปัญหาการใช้รถที่จะตามมาในภายหลัง ทุก ๆ ครั้งของการเลือกซื้อรถกอล์ฟ จึงต้องพิจารณาการการันตีด้านคุณภาพ โดยสังเกตได้จากองค์ประกอบเหล่านี้

  • ยี่ห้อ การเลือกซื้อรถกอล์ฟที่ดี ควรดูยี่ห้อที่มีความน่าเชื่อถือ เพราะจะมีโรงงานผลิตได้มาตรฐาน เช่นได้รับ ISO9001 ISO14001 มาตรฐานยุโรป CE
  • อะไหล่ รถกอล์ฟแต่ละยี่ห้อจะเลือกใช้อะไหล่ที่แตกต่างกัน โดยอะไหล่หลัก ๆ ที่ควรพิจารณา ได้แก่ มอเตอร์ กล่องคอนโทรลที่ชาร์ต และแบตเตอรี่

 

5. เลือกผู้จำหน่ายที่เชื่อถือได้

ปิดท้ายแนวทางการเลือกซื้อรถกอล์ฟให้ได้คุณภาพ ที่การเลือกผู้จัดจำหน่ายหรือตัวแทนจำหน่ายที่มีประสบการณ์ เพราะพวกเขามีหน้าที่ที่จะต้องดูแลและซ่อมบำรุงรถกอล์ฟให้คุณตลอดอายุการใช้งาน โดยการเลือกผู้จัดจำหน่ายที่เหมาะสม ควรพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้

  • บริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ 

ก่อตั้งมายาวนาน มีศูนย์บริการที่ชัดเจน น่าเชื่อถือ มีสินค้าตามมาตรฐานและสามารถเข้าไปทดลองขับได้จริง อีกทั้งยังมีผลงานการจำหน่ายสินค้าจำนวนมาก แสดงให้เห็นว่าบริษัทนั้นได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้า ทำให้มีประสบการณ์ในการจำหน่ายรถกอล์ฟ การซ่อมบำรุง และการจัดเก็บอะไหล่ที่เป็นไปตามมาตรฐาน ซึ่งสร้างความอุ่นใจให้แก่ลูกค้าที่จะเลือกซื้อได้ดี

  • การรับประกันสินค้า 

ควรดูรายละเอียดในการรับประกันสินค้าให้ชัดเจนว่าครอบคลุมในส่วนใดบ้าง รวมไปถึงมีบริการซ่อมนอกสถานที่อยู่ในการประกันหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เสียเปรียบด้านการซ่อมดูแล และการเสียค่าใช้จ่ายที่บานปลาย

  • การบริการซ่อมบำรุง 

เลือกผู้จัดจำหน่ายที่มีประสบการณ์ในการซ่อมบำรุงรถกอล์ฟ สามารถปรับสภาพรถกอล์ฟใหม่ได้ พร้อมไปซ่อมนอกสถานที่ได้อย่างรวดเร็ว มีจำนวนช่างเพียงพอ มีอะไหล่คอยให้บริการ เพื่อให้สามารถใช้งานต่อได้อย่างราบรื่น ไม่ต้องเสียเวลานานไปกับการซ่อมบำรุงที่ไม่ได้มาตรฐานนั่นเอง

สนใจเลือกซื้อรถกอล์ฟราคาถูก มีคุณภาพ พร้อมบริการดูแลก่อนและหลังการขายแบบมืออาชีพ นึกถึง UGO ผู้นำด้านรถไฟฟ้าชั้นนำของไทย ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานกว่า 21 ปี เครื่องการันตีคุณภาพและราคาที่น่าประทับใจ พร้อมประกันคุณภาพมาตรฐาน CE และมีบริการหลังการขายโดยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญด้านรถไฟฟ้าที่พร้อมดูแลท่าน 24 ชั่วโมง ตลอดอายุการใช้งาน เปิดบริการวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 08.00-17.00 น. และวันเสาร์ 09.00-17.00 น. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-385-1100 หรือ ADD LINE : @UGOCAR